“ในฐานะที่เป็นคนกกท.มาก่อน วันนี้เข้ามารับใช้วงการกีฬาในฐานะผู้จัดการกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ คนใหม่ จะเน้นการพบปะพูดคุย หาทางออกร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาที่ผ่านมาให้ดีขึ้น ในเรื่องของการจัดสรรงบประมาณให้กับองค์กรกีฬาต่างๆจะเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม เพื่อประโยชน์ของการพัฒนากีฬาของชาติอยากแท้จริง”
นี่คือความจริงใจ จริงจัง มุ่งมั่น ของ”รองน้อย”นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม อดีตรองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย( กกท.)ในฐานะผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ(NSDF)คนใหม่
“พี่น้อย” หรือ” รองน้อย ” หรือ “บิ๊กน้อย” ทนุเกียรติ จันทร์ชุม จากครูโรงเรียนประชาบาล ที่สอนหนังสือในจังหวัดเชียงราย ตั้งแต่ชั้นประถม ชอบกีฬา เป็นโค้ชกีฬา จนถูกชักชวนให้เข้ามาทำงานที่การกีฬาแห่งประเทศไทย จากข้าราชการ ข้ามฟากมาทำงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีความเสี่ยงในเรื่องความมั่นคง แม้ครอบครัวจะไม่เห็นด้วย
แต่ครูน้อยในวันนั้น กล้าเสี่ยงที่จะเริ่มการเปลี่ยนแปลงบนถนนสายใหม่ โดยเริ่มไต่เต้า จากการเป็นเจ้าหน้าที่ระดับเล็กๆของกกท.จ.เชียงราย จนขยับเป็นหัวหน้างาน กกท.ที่จ.แพร่
แต่ด้วยผลงานที่โดดเด่น ถูกดึงเข้าทำงานส่วนกลาง กกท. หัวหมาก จากหัวหน้ากอง หัวหน้าฝ่าย,ผู้อำนวยการ จนก้าวยึดตำแหน่งรองผู้ว่าการกกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย ตำแหน่งสุดท้าย
กว่า 3 ปีในตำแหน่งรองผู้ว่าการกกท. รองน้อย หรือ บิ๊กน้อย ยังเดินหน้าสร้างประโยชน์ให้กับวงการกีฬาไทยอย่างต่อเนื่อง ริเริ่ม การแข่งขันฟุตบอล SAT ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนชิพส์, มวยไทยรากหญ้า ,โมโตจีพี และอื่นๆอีกมากมาย
ด้วยประสบการที่คร่ำควอดอยู่บนถนนสายกีฬามากว่า 38 ปี รู้ทุกมิติปัญหาของการกีฬาเมืองไทยอย่างดี
เว้นวรรคแค่ 1 ปี หลังจากเกษียณอายุราชการเมื่อ 30 กันยายน 2566 ในตำแหน่งรองผู้ว่าการกกท. แต่ด้วยความสามารถ ประสบการณ์ และเป็นคนกล้าคิด กล้าทำ จนได้รับแต่งตั้งเข้ามาเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการซอฟท์พาวเวอร์เพื่อติดตามการส่งเสริมกีฬามวยไทย
ล่าสุด”รองน้อย” ทนุเกียรติ จันทร์ชุม ยังอาสาลงคัดเลือกเข้าดํารงตําแหน่งผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ด้วยคุณสมบัติที่เพียบพร้อม ได้รับแต่งตั้ง เป็น
ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ในวาระ 4 ปี โดยให้เริ่มงานในวันอังคารที่ 1 ตุลาคม 2567
นี่คือความหวังใหม่ของคนกีฬา กับการแก้ปัญหาให้ถูกที่ ถูกจุด ถูกเวลา เเพื่อสอดรับกับความต้องการของคนกีฬาที่รอคอย
“ในปี 2561รัฐบาลให้มีการจัดตั้งกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ขึ้นมา เจตนารมณ์ของกองทุนฯคือแหล่งทุนอีกแหล่งในการส่งเสริมและพัฒนากีฬา ตามนโยบายของคณะกรรมการบริหารกองทุน”
หลังจากที่เข้ามาทำหน้าที่นี้ รองน้อย บอกว่า งานเร่งด่วนที่ต้องทำคือการพิจารณา ปรับปรุงแก้ไข งบประมาณในปี พ.ศ.2568 ซึ่งต้องหารือกับสมาคมกีฬาและกกท. รวมถึงรับนโยบายจากบอร์ด.กองทุน ว่ามีเรื่องอะไรเน้นย้ำเป็นพิเศษหรือไม่ เพื่อรวบรวมเสนอให้พิจารณาและเห็นชอบ
“ผู้จัดการกองทุนฯถือว่าเป็นงานที่อาสาเข้ามา มีหน้าที่นำนโยบาย นำคำขอจากสมาคมกีฬา, กกท. นำเสนอเพื่อให้บอร์ด.กองทุนเห็นชอบ ดังนั้นต้องใช้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายในการผลักดันงานกีฬาให้สำเร็จลุล่วง ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ ”
ที่ผ่านมาระหว่างกองทุนฯ กับสมาคมกีฬาในเรื่องการเบิกจ่ายเงินล่าช้าเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมานาน ผมได้รับทราบและเห็นถึงปัญหานี้มาโดยตลอด ตั้งแต่สมัยที่ทำงานอยู่ในกกท.สิ่งนี้เป็นอุปสรรคอันหนึ่งในการพัฒนาวงการกีฬาไทย การเข้ามาจะหาวิธีลดขั้นตอน, ลดระยะเวลา ให้การเบิกจ่ายเป็นไปตามแผนงานให้เร็วที่สุดแต่เป็นไปตามระเบียบของกองทุน”
“ส่วนในเรื่องการจัดสรรงบประมาณ ผมขอยืนยันให้ทุกท่านสบายใจได้ การจัดสรรงบประมาณให้กับองค์กรกีฬาต่างๆจะเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์ของการพัฒนากีฬาของชาติอย่างแท้จริงแน่นอน”
วันนี้บทบาทใหม่ ของ “บิ๊กน้อย”ทนุเกียรติ จันทร์ชุม คนจริง ตัวจริง ที่รู้ปัญหาของคนกีฬา
ในฐานะผู้จัดการกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ที่อาสามาช่วยแก้ปัญหา
จะทำได้จริงหรือใม่ รอพิสูจน์กัน!!!
อ.อลังการ
https://thaisportplus.com/news/1b1af749-2cbc-43d0-ac95-8c8906316a1e
