วันจันทร์, พฤษภาคม 12, 2025
spot_img

ตอนที่ 10 : เพราะเหตุใด สิงคโปร์และมาเก๊า ถึงเปิดกาสิโน?

ในขณะที่ประเทศไทยยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวคิด “กาสิโนถูกกฎหมาย” หลายประเทศทั่วโลกได้เดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางการพนันและความบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบแล้ว บางแห่งล้มเหลว แต่บางแห่งกลับประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ทั้งด้านเศรษฐกิจ การจัดการ และภาพลักษณ์

บทความนี้จะพาผู้อ่านไปรู้จัก 2 ประเทศตัวอย่างที่ได้รับการยอมรับว่า “เปิดกาสิโนได้อย่างประสบความสำเร็จ” ได้แก่ **สิงคโปร์** และ **มาเก๊า** พร้อมเจาะลึกว่า **เพราะเหตุใดพวกเขาจึงทำได้**

## **สิงคโปร์: สร้างความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจและกฎระเบียบ**

### กาสิโนไม่ใช่แค่การพนัน แต่คือ “ศูนย์กลางความบันเทิงระดับโลก”

สิงคโปร์เปิดให้บริการกาสิโนแห่งแรกในปี 2010 โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการขนาดใหญ่ที่รวมกาสิโน โรงแรมระดับโลก ห้องประชุม สถานที่จัดแสดงงานศิลปะ และร้านค้าแบรนด์หรูไว้ด้วยกัน เช่น Marina Bay Sands และ Resorts World Sentosa

แนวคิดนี้ไม่ได้ขายแค่ “โต๊ะพนัน” แต่ขายประสบการณ์แบบครบวงจรที่ดึงดูดทั้งนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว ครอบครัว และคนมีฐานะจากทั่วโลก

### ควบคุมเข้มงวดตั้งแต่วันแรก

รัฐบาลสิงคโปร์เตรียมระบบกำกับดูแลไว้อย่างเข้มงวดก่อนอนุญาตให้ดำเนินกิจการ

– มีหน่วยงานเฉพาะทางควบคุมอุตสาหกรรมกาสิโน
– กำหนดค่าธรรมเนียมเข้าเล่นสำหรับคนสิงคโปร์ เพื่อไม่ให้ประชาชนติดพนัน
– ติดตามธุรกรรมทางการเงินแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ
– มีกฎหมายรองรับการคัดกรองลูกค้าที่มีปัญหาทางจิตเวชหรือหนี้สิน

ผลคือ ระบบนี้ช่วยควบคุมความเสี่ยง และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในประเทศ

## **มาเก๊า: จากเมืองเล็ก สู่มหานครคาสิโนระดับโลก**

### พัฒนาเป็น “มหานครคาสิโน” อย่างมีทิศทาง

มาเก๊าเคยเป็นเมืองเล็ก ๆ ภายใต้การปกครองของโปรตุเกส จนเมื่อกลับคืนสู่จีนในปี 1999 ก็เริ่มพัฒนาอุตสาหกรรมกาสิโนเต็มรูปแบบ ปัจจุบัน มาเก๊ามีรายได้จากกาสิโนสูงกว่าลาสเวกัส และกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักพนันจากทั่วโลก โดยเฉพาะจากจีนแผ่นดินใหญ่

### ระบบสัมปทานและการคัดเลือกผู้ประกอบการที่โปร่งใส

รัฐบาลมาเก๊าใช้ระบบสัมปทานแบบจำกัดจำนวน โดยมีการคัดเลือกผู้ประกอบการด้วยเกณฑ์ที่เข้มงวด เช่น ความโปร่งใส ประสบการณ์ ความสามารถในการลงทุน และการมีแผนพัฒนาเมืองร่วม

### ประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวม

– รายได้จากภาษีการพนันคิดเป็นกว่า 70% ของงบประมาณรัฐ
– เงินเหล่านี้ถูกนำไปใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โรงพยาบาล ระบบขนส่ง และสวัสดิการประชาชน
– กาสิโนกลายเป็นเครื่องจักรทางเศรษฐกิจของเมือง โดยไม่เกิดความวุ่นวายด้านสังคมในระดับรุนแรง

## **เพราะเหตุใด พวกเขาจึงประสบความสำเร็จ?**

จากการวิเคราะห์ทั้งสองประเทศ มีปัจจัยร่วมสำคัญที่ทำให้พวกเขาเปิดกาสิโนแล้วประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง ได้แก่:

### 1. มี **วิสัยทัศน์ระดับชาติ**
ไม่ได้เปิดกาสิโนเพราะต้องการรายได้ระยะสั้น แต่มีแผนการระยะยาวชัดเจนในการสร้างเมืองท่องเที่ยวแบบครบวงจร สร้างงาน ยกระดับเศรษฐกิจ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

### 2. วาง **ระบบควบคุมและกฎหมายก่อนการเปิด**
ไม่ใช่แค่ให้ใบอนุญาตแล้วปล่อยให้ผู้ประกอบการบริหารเอง แต่สร้างโครงสร้างกำกับดูแลที่เข้มข้น โปร่งใส และสามารถบังคับใช้ได้จริง

### 3. สร้าง “กาสิโนที่ไม่เหมือนบ่อน”
เปลี่ยนภาพลักษณ์จากการพนันในบ่อนเถื่อน สู่ความบันเทิงระดับพรีเมียม ทำให้สังคมยอมรับมากขึ้น และดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพมากกว่านักพนันทั่วไป

### 4. สร้างความเชื่อมั่นจากประชาชน
ทั้งสองประเทศสามารถแสดงให้เห็นว่า รัฐจัดการได้จริง ไม่ใช่แค่สัญญา รายได้จากกาสิโนถูกนำกลับมาใช้เพื่อพัฒนาสาธารณูปโภคและคุณภาพชีวิตของคนในประเทศ

## **บทเรียนสำหรับไทย**

หากประเทศไทยต้องการพัฒนา “กาสิโนถูกกฎหมาย” ให้ประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องตอบคำถามสำคัญเหล่านี้ให้ได้ก่อน:

– ประเทศไทยมีแผนระดับชาติชัดเจนหรือยัง?
– ระบบควบคุมและหน่วยงานกำกับดูแลมีความพร้อมแค่ไหน?
– มีเกณฑ์การคัดเลือกผู้ประกอบการที่โปร่งใสหรือไม่?
– รัฐสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้หรือยัง?

## **บทสรุป**

กาสิโนไม่ใช่เรื่องดีหรือร้ายโดยตัวมันเอง ความสำเร็จหรือความล้มเหลวอยู่ที่ **วิธีบริหารจัดการ** และ **เจตจำนงทางการเมือง** หากไทยสามารถเรียนรู้จากประเทศที่ทำได้ดี อนาคตกาสิโนในประเทศไทยก็อาจกลายเป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจ และไม่ใช่แค่ “แหล่งการพนัน” เท่านั้น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

ข่าวล่าสุด
- ปุ๋ยไข่มุกตราเรือใบไข่มุก -spot_img
- SUNFORD -spot_img
- MUANGTHAIINSURANCE-spot_img