หลังจากที่เราได้ศึกษาความสำเร็จของสิงคโปร์และมาเก๊าในตอนที่แล้ว ตอนนี้เราจะมาดูอีกด้านหนึ่งของเหรียญ — ประเทศที่พยายามเปิดกาสิโนแต่กลับล้มเหลวในหลายมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง
ในบทความนี้ เราจะเจาะลึก 2 ตัวอย่างที่สำคัญ ได้แก่ **กัมพูชา (กรณีเมืองปอยเปตและสีหนุวิลล์)** และ **ฟิลิปปินส์ (บางส่วนของกรุงมะนิลาและเขตเสรีอื่น ๆ)** พร้อมวิเคราะห์ว่าเพราะเหตุใดพวกเขาจึงไม่ประสบความสำเร็จ และไทยควรเรียนรู้อะไรจากความล้มเหลวนี้
—
## 🇰🇭 **กรณีศึกษากัมพูชา: จากกาสิโนเสรี สู่ปัญหาควบคุมไม่ได้**
### ❌ เปิดง่าย ควบคุมยาก
กัมพูชาอนุญาตให้เปิดกาสิโนอย่างเสรี โดยเฉพาะในเมืองชายแดนอย่างปอยเปต ซึ่งอยู่ติดประเทศไทย และในเมืองชายทะเลอย่างสีหนุวิลล์ที่เปิดรับนักลงทุนจีนจำนวนมาก
ปัญหาที่ตามมาคือ:
– การฟอกเงินผ่านกาสิโน
– กลุ่มทุนสีเทาและอาชญากรรมข้ามชาติ
– การค้ามนุษย์ในคราบ “ศูนย์เทคโนโลยี”
– การใช้แรงงานผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน
– รัฐบาลท้องถิ่นไม่สามารถควบคุมหรือบังคับใช้กฎหมายได้จริง
> ในช่วงปี 2022-2023 มีข่าวการลักพาตัวชาวต่างชาติ แรงงานถูกกักขัง และเครือข่ายพนันออนไลน์ผิดกฎหมายจำนวนมากในกัมพูชา จนหลายประเทศออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยว
### ❌ รายได้กระจุก ไม่กระจาย
แม้ภาครัฐจะได้ภาษีบ้าง แต่รายได้ส่วนใหญ่ตกอยู่ในมือของกลุ่มทุนต่างชาติ และไม่ได้ส่งผลต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ หรือยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
—
## 🇵🇭 **กรณีศึกษาฟิลิปปินส์: เสรีแต่ไร้ทิศทาง**
### ❌ การบริหารแบบรัฐ-เอกชนที่ขาดความโปร่งใส
ฟิลิปปินส์ใช้โมเดลที่รัฐบาลมีบทบาททั้งในฐานะ “ผู้ควบคุม” และ “ผู้ดำเนินกิจการ” ผ่านหน่วยงานที่ชื่อว่า PAGCOR (Philippine Amusement and Gaming Corporation)
แม้จะดูน่าสนใจ แต่การรวมบทบาททั้งสองไว้ในองค์กรเดียว กลับกลายเป็นจุดอ่อน:
– เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์
– การตรวจสอบภายในไม่โปร่งใส
– เปิดช่องให้เกิดการทุจริตในกระบวนการอนุญาตและบริหารจัดการ
### ❌ ภาพลักษณ์เชิงลบสะสม
แม้กรุงมะนิลาจะมี Entertainment City ที่มีรีสอร์ทครบวงจรหลายแห่ง แต่ภาพลักษณ์ของฟิลิปปินส์ในเรื่องกาสิโนยังคงติดลบ ทั้งจาก:
– ข่าวอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับพนัน
– ความเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนเถื่อนและมาเฟีย
– การเข้าถึงง่ายของประชาชนท้องถิ่นโดยไม่มีมาตรการป้องกันปัญหาการติดพนัน
—
## 🔍 **วิเคราะห์: เพราะเหตุใดพวกเขาจึงล้มเหลว?**
### 🔸 1. ขาดการวางแผนเชิงระบบ
เปิดกาสิโนโดยไม่มีการออกแบบระบบควบคุมล่วงหน้า ทำให้เกิดช่องว่างทางกฎหมายและการบังคับใช้
### 🔸 2. ไม่แยกบทบาท “รัฐ-เอกชน”
การที่รัฐเป็นทั้งผู้ควบคุมและผู้ดำเนินกิจการ สร้างความสับสน และเปิดโอกาสให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน
### 🔸 3. ปล่อยให้ “ทุนสีเทา” มีบทบาท
การไม่ตรวจสอบแหล่งทุนและไม่ควบคุมกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง ทำให้กาสิโนกลายเป็นเครื่องมือของกลุ่มอิทธิพลผิดกฎหมาย
### 🔸 4. ประชาชนไม่ได้ประโยชน์จริง
รายได้กระจุกอยู่ในกลุ่มทุน ขณะที่ชาวบ้านกลับต้องเผชิญปัญหาสังคมที่ตามมา เช่น ติดพนัน หนี้สิน และอาชญากรรม
—
## 🧭 **บทเรียนที่ไทยควรจดจำ**
หากประเทศไทยต้องการเดินหน้าสู่การเปิดกาสิโนอย่างถูกกฎหมาย จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเดียวกันนี้ให้ได้ โดยเฉพาะ:
– ต้องแยกบทบาท “ผู้ควบคุม” และ “ผู้รับสัมปทาน” อย่างชัดเจน
– ต้องมีระบบคัดกรองและตรวจสอบทุนอย่างเข้มงวด
– ต้องมีกฎหมายและหน่วยงานบังคับใช้ที่มีอิสระและโปร่งใส
– ต้องมีแผนกระจายผลประโยชน์ไปสู่ประชาชน ไม่ใช่แค่กลุ่มทุน
—
## ✅ **บทสรุป**
ประเทศที่ล้มเหลวในการเปิดกาสิโนมีสิ่งหนึ่งร่วมกันคือ **“เปิดก่อน แล้วค่อยแก้ทีหลัง”**
ขณะที่ประเทศที่สำเร็จจะ **“วางระบบให้พร้อม แล้วค่อยเปิด”**
ประเทศไทยควรเลือกเดินบนเส้นทางที่สอง หากต้องการให้กาสิโนถูกกฎหมายเป็นมากกว่าแค่ “สถานที่เล่นพนัน” แต่เป็นหนึ่งในเครื่องมือพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน